ส้มหล่นโจ ตัวเต็ง วัน คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต “มารัต กริกอเรียน” จำเป็นต้องถอนตัวออกมาจากการแข่งขันชิงชัย รอบรองชนะเลิศ

ส้มหล่นโจ ตามมาตรการเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งให้นักต่อยไทย “โจ ณัฐวุฒิ” ที่แต่เดิมเป็นตัวสำรองของศึกนี้ ขยับขึ้นมาทิ่มแทน ซึ่งมีระบุจัดแจงชิงชัยในวันศุกร์ที่ 28 เดือนมกราคม65ในประเทศสิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม

มีคู่ไฮไลต์ 4 คิกบ็อกเซอร์สายแข็ง ที่ผ่านการแข่งขันชิงชัย คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รอบแรก จะเปิดศึกกัน ในรอบรองชนะเลิศคราวนี้ ตัวอย่างเช่น “มารัต กริกอเรียน” ปะทะ “ชิงกิซ อัลลาซอฟ”, “สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง” ดวลคู่ปรับเก่า “ดาวิต คิเรีย”

ส้มหล่นโจ

แต่ว่าด้วยเหตุการณ์โควิด-19 ที่ไม่เป็นใจ ทำให้ตัวเก็งอย่าง มารัต ต้องถอนตัวจากการแข่งขันชิงชัย ทำให้ส้มตกใส่นักต่อยเมืองย่าโม “โจ ณัฐวุฒิ” ที่ถูกวางตัวให้เป็นคู่สำรอง คู่กับ “โดวิดาส ริมคุส” ขึ้นมาแทงแทนโดยทันที

ดังนี้นักชกหมัดหนักรัสเซีย “อีวาน คอนดราเทฟ” เข้ามาขัดตาทัพ เป็นคู่ชกให้กับ โดวิดาส ในฐานะคู่สำรองของ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รวมทั้งยัง มีการเปลี่ยนตัว นักกีฬาอีกจำนวนหนึ่งด้วยมูลเหตุเดียวกัน https://www.robbdragonhogan.com

“โจ ณัฐวุฒิ” นักต่อยไม่ค่อยพูดต่อยหนักจากเมืองคุณย่าโม หลังโดนคู่แข่งชาวเบลารุส “ชิงกิซ อัลลาซอฟ” สอยหล่นตั้งแต่ยกแรก สำหรับเพื่อการชิงชัยรอบรองชนะเลิศ คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟคุณร์เวต ในศึก ONE: ONLY THE BRAVE เมื่อวันศุกร์ที่ 28 เดือนมกราคมก่อนหน้านี้ ก็ออกมาเห็นด้วยแบบลูกผู้ชายว่า คู่แข่งขันเหนือกว่าตนในทุกด้าน ถึงจะแพ้ แม้กระนั้นไม่เศร้าใจ เตรียมกลับไปพักก่อนมาสู้ต่อ พร้อมเชียร์ “สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง” ให้คว้าแชมป์ กลับประเทศ

แม้ว่าจะโชคดีถูกส้มร่วงใส่ได้เป็นตัวจริง ในศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ แต่ โจ กลับไม่ได้ไปต่อ เนื่องจากจำต้องพบกับคู่ปรปักษ์ที่ถือได้ว่างานหินอย่าง ชิงกิซ

โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า ตนเสียเปรียบอีกทั้งเรื่องน้ำหนักรวมทั้งแรงปะทะ ทั้งยังยังรู้สึกเหมือนศีรษะโดนกระแทกอย่างแรงจากลูกเตะสูงจากฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวจนถึงไปต่อไม่ไหว

ถึงแม้ใจจริงตนจะรู้สึกเสียดายบ้างที่พลาดโอกาสที่ตกมาใส่มือ แต่ว่าเขาก็ยังรู้สึกพอใจในผลงานของตน เนื่องจากว่าได้สู้อย่างเต็มเปี่ยมราวกับทุกไฟต์ที่ผ่านมา

ส้มหล่นโจ

“ผมจำต้องยอมรับว่า ชิงกิซ เขาเก่งกว่าในทุกด้านเลยขอรับ หนึ่งเป็น เขาเชี่ยวชาญในข้อตกลงคิกบ็อกซิ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่างจากผมที่มาจากสายมวยไทย เขามีสปีดหมัดเร็วกว่า และยังเหนือกว่าเรื่องรูปร่าง น้ำหนัก ความร้ายแรง และก็ความหนักหน่วงนะครับ”

“สำหรับไฟต์นี้ใจจริงก็รู้สึกเสียดายครับผม แต่ว่ามิได้รู้สึกเศร้าอะไร เพราะว่าผมรู้สึกว่าผู้ที่เก่งกว่าก็จำเป็นต้องชนะไปเป็นปกติอยู่แล้ว สำหรับผมไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ผมจัดว่าทำเต็มที่แล้ว งานพวกเราจบแล้วขอรับ”

ยิ่งกว่านั้น โจ ยังยินดีกับนักต่อยเพื่อนร่วมชาติ สิทธิชัย ที่ลอยลำไปสู่รอบชิงแชมป์เรียบร้อย โดยจะเข้าไปเจอหน้ากับ ชิงกิซ ที่เพิ่งจะเอาชนะเขาไปนั่นเอง ซึ่ง โจ ก็เชียร์ สิทธิชัย เต็มกำลัง โดยเห็นว่าหากแม้ ชิงกิซ จะหนักแน่นและก็เร็วขนาดไหน ตัวท็อปคิกบ็อกซิ่งอย่าง สิทธิชัย เอาอยู่แน่ๆ มวยไทย

โดยจากนี้ โจ ขอเวลาไปพักและก็ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวในประเทศไทย ก่อนที่จะได้มีการเดินทางกลับอเมริกา ซึ่งตรงนั้น โจ มีโครงการจะขยายกิจการยิมของตนเองพร้อมกันไปกับการทำงานเป็นผู้ฝึกสอนสอนมวยไทยและก็คิกบ็อกซิ่งด้วย

แรกเริ่ม คู่เอกของรายการนี้เป็นการประกบคู่ระหว่าง “อนาโตลี มาลีคิน” แล้วก็ “คิริลล์ กรีเชนโก” เพื่อแย่งตำแหน่งแชมป์โลก ONE รุ่นเฮฟวีเวต เฉพาะกาล แต่ว่า อนาโตลี จะต้องถอนตัวเหตุเพราะมาตรการด้านสุขภาพแล้วก็ความปลอดภัยในเหตุการณ์โควิด ก็เลยจึงควรเลื่อนโปรแกรมนี้ออกไป รวมทั้งขยับเอาการชิงชัยคิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต ขึ้นป้ายเป็นคู่เอกรวมทั้งคู่รองของรายการแทน ขึ้นแท่นลูกรัก

คู่เอก พวกเราจะได้มองเห็นการเปิดศึกไตรภาคระหว่าง “มารัต กริกอเรียน” มือวางลำดับต้นๆของแรงกิ้ง ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต รวมทั้งศัตรูเก่า “ชิงกิซ อัลลาซอฟ” ยอดฝีมือจากอาเซอร์ไบจานที่เดี๋ยวนี้รั้งชั้น 4 ของแรงกิ้งรุ่นนี้

ส่วนคู่รอง สิทธิชัย ผู้รั้งชั้น 3 ของแรงกิ้งรุ่นนี้ จะได้เจอหน้ากับคู่แค้นเก่าอย่าง “ดาวิต คิเรีย” ที่เคยพบกันมาแล้วสองครั้งก่อนหน้านี้ โดย สิทธิชัย เป็นข้างเอาชนะมาได้ทั้งคู่ครั้ง คงจะจำเป็นต้องรอดูกันว่าศึกภาค 3 ของทั้งสองจะจบเช่นไร แล้วก็เขาจะสามารถฝ่าด่านนี้เพื่อเป็นเลิศในสองคนในที่สุดของทัวร์นาเมนต์นี้ได้หรือเปล่า

อีกหนึ่งนักต่อยผู้แทนคนไทยที่กำลังจะได้ลงโชว์ความสามารถในศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ คราวนี้เป็น “โจ ณัฐวุฒิ” ซึ่งภายหลังคว้าชัยอย่างงดงามในไฟต์ปัจจุบันก็หวังกลับมาเก็บแต้มชัยตลอด โดยจะปะทะกับ “โดวิดาส ริมคุส” นักสู้ชายหนุ่มดาวรุ่งจากลิทัวเนีย เพื่อชิงเก้าอี้นักกีฬาสำรองที่จะต้องมีเผื่อไว้ในเรื่องที่นักกีฬาตัวจริงไม่อาจจะลงแข่งขันได้