หมัดลักไก่ “ยอดมวยเมืองสกล” น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว เจ้าตำนานผู้ครองบัลลังก์แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ยาวนานถึง 5 ยุค

หมัดลักไก่  ตั้งแต่แมื่อกุมภาพันธ์ 2562 เขาไม่เคยให้ใครได้สัมผัสเข็มขัดอันมีเกียรตินี้ ถึงแม้ในปี 2563 ที่โควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก น้องโอ๋ ร้างเวทีไปร่วมปี แล้วก็หวนคืนเวทีเพียงครั้งเดียวก่อนส่งท้ายปี แต่ว่าเจ้าตัวก็สามารถรั้งตำแหน่งไว้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี

หมัดลักไก่

หลังจาก น้องโอ๋ ครองตำแหน่งแชมป์โลก ONE เมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2562 แล้วก็ขึ้นป้องกันตำแหน่งถึง 3 ครั้งในปีเดียวกัน โดยไฟต์ส่งท้ายปีเจ้าตัวเปิดศึกสายเลือดกับนักชกไทย “เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์” และก็ปิดเกมผู้ท้าชิงได้ด้วยการน็อกเอาต์เป็นครั้งแรกใน วัน แชมเปียนชิพ ด้วยการส่งหมัดตรงชนเข้ากลางหน้า ข่าวมวย ออนไลน์

ซึ่ง น้องโอ๋ ตั้งชื่อให้ว่า “หมัดลักไก่” อวสานการแข่งขันไปในนาทีที่ 1.46 ของยกที่ 4 พร้อมกับซิวรางวัล “น็อกเอาต์แห่งปี 2563” จำพวกการแข่งขัน วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ (ข้อตกลงมวยไทยแล้วก็คิกบ็อกซิ่ง) ปิดท้ายปีอย่างสวยงาม

สำหรับปี 2563 แม้วงการกีฬาจะถูกแช่แข็งหลายเดือน ท้ายที่สุด น้องโอ๋ ซึ่งร้างเวทีมาร่วมปี ก็ได้คืนสังเวียนเพื่อคุ้มครองตำแหน่งแชมป์โลก ONE ครั้งที่ 4 ซึ่งถือเป็นการสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ให้กับแวดวงหมัดมวย ด้วยการเจอกับนักสู้ร่วมชาติ “รถเหล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ในศึก ONE: COLLISION COURSE เมื่อ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา

และก็เป็นอีกรอบที่ น้องโอ๋ ปิดบัญชีนักต่อยรุ่นน้องอย่างเร็ว ด้วยฟอร์มที่สุดยอดขึ้นกว่าเดิม โดยใช้เวลาเพียงแต่ 1.13 ของชูที่ 3 กำราบผู้ท้าชิงได้เสร็จด้วยหมัดตรงทรงเดิมกับที่ใช้กำราบ สีมาเพชร ซึ่งไฟต์นี้ส่งให้ น้องโอ๋ คว้ารางวัลน็อกเอาต์ที่ปี 2563 ชั้นที่ 5 ชนิด วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ ต่อเนื่องเป็นปีที่สองจากหมัดลักไก่สุดอันตรายเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา

สำหรับรางวัลน็อกเอาต์แห่งปี 2563 ประเภท วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ ชั้นที่ 1-4 ได้แก่ กุหลาบดำ vs แสงมณี 21 สิงหาคม, กัปปิตัน vs เพชรทนง 18 กันยายน, ราเดอ โอพาชิช vs เครื่องปรับอากาศโรล ซิมเมอร์แมน 11 ธันวาคม และ รถถัง vs โจนาธาน II 10 มกราคม63

“ยอดมวยเมืองสกล” น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ผู้ครองบัลลังก์นานถึง 5 ยุค นับตั้งแต่ 16 ก.พ. 2562 เป็นต้นมาหลังจากได้ครอบครองเข็มขัดเส้นนี้ น้องโอ๋ ไม่เคยให้ผู้ท้าชิงรายใดย่างกรายเข้ามาแตะต้องได้สักราย เข้าสู่ศักราชใหม่ปี 2564 น้องโอ๋ มีเป้าหมายที่วางไว้ทั้งในเรื่องงานแล้วก็เรื่องส่วนตัว โดยได้เปิดใจเล่าสู่กันฟัง

หมัดลักไก่

ผมอยากมีรายการต่อยให้มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ได้ทำหน้าที่คุ้มครองแชมป์โลก ONE มวยไทยของผม แล้วก็อยากมีโอกาสหยั่งเชิงในข้อตกลงคิกบ็อกซิ่ง และก็พบกับคนเก่งๆโดยเฉพาะกับ เปโตรเซียน ขอรับ ผมรู้ว่าเขาเก่งและก็เป็นสุดยอดของกีฬาคิกบ็อกซิ่ง ผมอาจจะมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวที่น้อยกว่า แต่ว่าถึงยังไงผมก็ยังต้องการลองดู”

ปีที่ผ่านมาสถานการณ์โควิด-19 ทำให้วงการกีฬาถูกแช่แข็ง ถ้าหากจำกันได้ น้องโอ๋ ส่งท้ายปี 2562 ด้วยการป้องกันแชมป์โลก ONE กับ “ใบเสมาเพชร แฟร์เท็กซ์” ในพฤศจิกายน และก็กลับมาขึ้นสังเวียนอีกรอบกับ “รถยนต์เหล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ในไฟต์ปัจจุบันเมื่อธันวาคม 2563

เท่ากับว่า น้องโอ๋ ร้างเวทีไปปีกว่า ซึ่งมีผลทั้งยังกับเรื่องรายได้รวมทั้งการต่อยเคลื่อนไหว ถึงแม้ น้องโอ๋ จะเป็นครูมวยแล้วก็ได้โอกาสได้ฝึกอยู่เป็นประจำ แต่ถ้าได้ต่อยบ่อยก็จะยิ่งทำให้ฟอร์มอยู่ตัวมากขึ้น เดือดก่อนสิ้นปี

นอกจากเรื่องเป้าหมายในการปฏิบัติงาน น้องโอ๋ ยังมีแผนสำหรับการชีวิตส่วนตัว โดยเวลานี้ได้เริ่มขับเคลื่อนทำฟาร์มวัวเนื้อที่รกรากจ.สกลนคร โดยให้เมียคู่ทุกข์คู่ยาก “น้องนุจรี บัวเขาหิน” ซึ่งดูแลลูกๆทั้งคู่ผู้ที่ประเทศไทย เป็นเรี่ยวแรงกำลังสำคัญสำหรับในการบริหารจัดการ

ส่วนตัว น้องโอ๋ ซึ่งทำงานเป็นครูมวยอยู่ที่ยิมอีโวลฟ์ ประเทศสิงคโปร์ พร้อมกับชกมวยในสังกัด วัน แชมเปียนชิพ ไปด้วย เป็นข้างหาเงินทุน ซึ่งเจ้าตัวเห็นด้วยว่าไม่ได้กลับเมืองไทยมาเป็นปีแล้ว เนื่องจากเหตุการณ์โควิด-19 นั่นเอง

“กิจกรรมฟาร์มวัวถือเป็นธุรกิจของครอบครัว ทำไว้เผื่อวันที่ผมเกษียณอายุจากการชกมวย และก็กลับไปอยู่บ้านกับครอบครัว ใช้วิถีชีวิตแบบบ้านๆกล้วยๆทำไร่ ทำสวน เลี้ยงวัว อย่างน้อยก็ยังมีอาชีพรองรับอนาคตขอรับ”

ที่สังเวียนสิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ประเทศสิงคโปร์ คู่ชูโรงที่แฟนหมัดติดตามทั้งโลก จบสิ้นลงที่น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว ส่งหมัดขวาพิฆาตเอาชนะน็อก “รถเหล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ในชู 3 นาทีที่ 1.13 ป้องกันแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ไว้ได้เป็นยุคที่ 4 อย่างงดงาม

ข้างหลังจบเกม “ยอดมวยเมืองสกล” ประกาศกร้าว ต้องการระเบิดศึกซุปเปอร์ไฟต์ พบกับ “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” ยอดคิกบ็อกเซอร์ชาวอาร์เมเนีย-อิตาลีเบอร์หนึ่งของโลก ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเที่ยงตรง รวมทั้งวิธีการต่อสู้อันชาญฉลาด เผยอายุไม่เป็นปัญหา ยิ่งทำให้ฝึกซ้อมให้ดีกว่าเดิม ด้าน “รถยนต์เหล็ก” รับพลาดเข้ามวยหละหลวม หากมีโอกาสรีแมตช์เจอน้องโอ๋อีกจะรัดกุมมากกว่านี้

น้องโอ๋ บอกว่า รู้สึกดีใจมากที่ไฟต์นี้ชนะแล้วคุ้มครองแชมป์ไว้ได้ เพราะว่าไม่ได้ต่อยมา 1 ปี รู้สึกบีบคั้น แต่ว่าผ่านมาได้ก็ดีแล้วใจมาก ซึ่งไฟต์นี้ถือว่ารถเหล็กคิดแผนมาดี เตะขาได้ดีมากมาย แม้กระนั้นเขามาพลาดโดนตนก่อน ก็เลยทำให้ตนเป็นผู้ชนะ ส่วนเรื่องแผนก่อนต่อยคราวนี้ ตนก็จัดแจงแผนมาเช่นกัน ในยกที่หนึ่งและก็ชูลำดับที่สองตนรอคอยจังหวะก่อน เพราะว่ารู้ว่ารถเหล็กนั้นอ่านว่าตนอายุมาก แล้วจะมาเดินเร็วยก 3-4 ซึ่งในยกสามตนก็จัดแจงสวนหมัดอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เรื่องอายุไม่มีปัญหา ตัวเองมีการฟิตฝึกตลอด เพราะว่ารู้สึกตัวว่าอายุมากก็จำเป็นต้องฝึกซ้อมให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แล้วก็ในเวลานี้ไฟในตัวนั้นยังมีมากมาย ก็จะต้องซ้อมให้มากเพิ่มขึ้น สำหรับเพื่อการให้สัมภาษณ์ที่ว่าตัวเองต้องการต่อยกับคนเก่งๆอย่าง เปโตรเซียน ที่มีความเก่งสุดยอด แม้กระนั้นจะเป็นในแบบมวยไทยหรือคิกบ็อกซิ่งก็คงจะจำต้องคุยกันอีกรอบว่าจะได้ต่อยในรูปแบบไหน โดยในรุ่นแบนตัมเวต ตนต่อยได้ทุกคนแล้ว ก็ต้องการท้าตนเองพบกับเบอร์หนึ่งคิกบ็อกซิ่ง

ด้าน รถเหล็ก เปิดเผยว่า เห็นด้วยว่าระบบหายใจยังไม่ดี เพราะเหตุว่าตอนหลังกว่าจะได้ต่อยแต่ละครั้ง ต้องคอย 4-5 เดือน แม้กระนั้นหากต่อย 2 เดือนต่อ 1 ครั้งระบบหายใจจะได้ตลอด ดียิ่งกว่าแบบ 4-5 เดือนมาต่อย ส่วนโปรแกรมในอนาคตก็แล้วแต่โปรโมเตอร์จะจัดให้

ส่วนตัวขอให้ได้มีรายการต่อยตลอดก็พอแล้ว ถ้ามีโอกาสสำหรับการรีแมตช์อีกรอบกับน้องโอ๋ ตนก็จะรัดกุมให้มากยิ่งกว่านี้ ในคราวนี้เห็นด้วยว่าเข้ามวยหลวม ซึ่งการซ้อมก่อนแข่งคราวนี้ ในตอน 2 วันก่อนต่อย จำต้องมากักตัวที่สิงคโปร์ก็มีส่วนทำให้กระทบกับหัวข้อการฝึกเช่นกัน ทำให้ตนฝึกไม่สม่ำเสมอ

ส่วนการให้สัมภาษณ์ของน้องโอ๋ ที่บอกว่าไฟต์ถัดไปอยากพบกับเปโตรเซียนนั้น ตนคิดว่าถ้าคู่นี้พบกันจริงๆเปโตรเซียนรับประทานน้องโอ๋ไม่ง่ายแน่ ซึ่งคงจะได้ต่อยกันในแบบคิกบ็อกซิ่ง ด้วยเหตุว่าน้องโอ๋เก่งมวยไทย ส่วนเปโตรเซียนเก่งในแบบอย่างคิกบ็อกซิ่ง แล้วก็หลังจากนี้ ตัวเองกลับเมืองไทยก็จะกลับบ้านที่เกาะสมุย พักกับครอบครัว 1 สัปดาห์ แล้วจะกลับมาซ้อมต่อเนื่องเช่นเดิม