หมัดลูกครึ่ง ผมจัดแจงจะขึ้นสังเวียนกับเด็กที่ชื่อว่า แคสเซียส เคลย์ ยอมรับสารภาพเลยก็ได้ว่าไอ้หมอนี่เป็นคนใดผมก็ไม่เคยรู้ชื่อ
หมัดลูกครึ่ง จวบจนกระทั่งคนดูแลผมกล่าวว่า ไอ้เด็กคนนี้มันพึ่งจะได้เหรียญทองโอลิมปิกพยายามโว้ย ผมก็แบบ … อ้อเหรอ ? แล้วข้าจำเป็นจะต้องกลัวมั้ยเนี่ย ? นี่เป็นคำยอมรับสารภาพของ ทูนนี่ย์ ฮันเซเกอร์ นักต่อยที่มิได้ดังอะไรแม้กระนั้นเปลี่ยนเป็นที่จำในโลกของหมัดมวย
ด้วยเหตุว่าเขาเป็นคู่ต่อยคนแรกของ แคสเซียส เคลย์ ที่ตอนหลังเปลี่ยนแปลงชื่อเป็น “มูฮัมหมัด อาลี” อาลีในวัย 18 ปี จัดจ้าแค่ไหน ไฟต์ที่เป็นเสมือนการจุดประกายและก็สร้างประวัติศาสตร์ของแวดวงมวยสากลไฟต์นั้นกำเนิดอะไรขึ้นบ้าง ?
เนื่องในวันที่ 29 เดือนตุลาคม 1960 เป็นวันแรกที่ มูฮัมหมัด อาลีขึ้นสังเวียนไฟต์แรกในแวดวงมวยสากลอาชีพ ขอย้อนเรื่องราวในวัยเด็กของเขา ขณะก่อนที่จะเขาจะแปลงเป็นตำนาน
หมัดลูกครึ่ง โบยบินสู่แชมป์โลก จะเก่งมาจากไหนแม้กระนั้นเด็กวัยรุ่นก็ยังคงเป็นชายหนุ่มอยู่ดี
อาลีเลือกเทิร์นโปรตอนอายุ 18 ปี ภายหลังที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก โปรโมเตอร์ของเขาตั้งอกตั้งใจจะส่งเสริมให้ อาลีเดินไปด้านหน้าได้เร็วด้วยแนวทางการทำสถิติไม่มีปราชัย ชนะไปเรื่อยตราบจนกระทั่งจะได้ชิงสายรัดเอวแชมป์โลก
ฉะนั้นในขั้นแรก ๆ อาลีก็เลยจำเป็นที่จะต้องต่อยถี่มาก ๆ กับนักต่อยหลายต้นแบบแล้วก็หลายสไตล์ เก่งมากมายเก่งน้อยสุดแท้แต่ชะตากรรมจะนำพา กระทั่งภายหลังจากเก็บเนื้อเก็บตัวฝึกซ้อมข้างหลังเทิร์นโปรได้ 2 เดือน ไฟต์แรกของเขาก็มาถึง
โดยเป็นการพบกับ ทูนนี่ย์ ฮันเซเกอร์ ฮันเซเกอร์ เป็นนักต่อยระดับขั้นบันได ไม่เคยมีแชมป์อะไรติดไม้ติดมือตลอดอาชีพ ยิ่งกว่านั้นชีวิตนอกสังเวียน ฮันเซเกอร์ ก็ดำเนินงานเป็นตำรวจในเวสต์เวอร์จิเนียอีกด้วย
แม้กระนั้นถึงแบบนั้น ฮันเซเกอร์ ก็บอกเสมอว่าถึงแม้เขาจะเป็นนักต่อยระดับบันได หรือภาษามวยเรียกว่า “มวยส้วม” ที่ราวกับเป็นนักต่อยที่เอาไว้วัดพลังพวกดาวรุ่งที่กำลังจะก้าวขึ้นมา เขาบางครั้งก็อาจจะต่อยไม่เก่ง มันเกิดอะไรขึ้น
แม้กระนั้นเป็นมวยเก๋า เล่นกับจังหวะรวมทั้งเวลาเก่งโดยประมาณหนึ่ง ด้วยเหตุนั้นถ้าหากพวกนักต่อยชายหนุ่มใครกันแน่ประมาทก็ตกม้าตายได้ไม่ยากพูดได้ว่าแม้ว่าจะเป็นแมตช์ที่ง่าย แต่ว่าถ้าเกิดเอาชนะ ฮันเซเกอร์ มิได้ ก็ไม่สมควรกล้าหวังไกลถึงขนาดเป็นแชมป์แล้ว
ฮันเซเกอร์ ถูกตามตัวมาต่อยแมตช์กับ อาลีรวมทั้งตัวเขาเองก็มิได้พึงพอใจอะไรนัก คิดเพียงแค่ว่าเป็นอีกไฟต์ที่ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็ได้เงินทั้งหมด เขามาแบบชิว ๆ นอนเต็มที่ ไม่บีบคั้นเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ อาลีจะมีดีกรีประจำตัวมาก็ตาม
“ผมจัดแจงจะขึ้นสังเวียนกับเด็กที่ชื่อว่า แคสเซียส เคลย์ ยอมรับเลยก็ได้ว่าไอ้หมอนี่เป็นคนใดกันผมก็ไม่เคยรู้ชื่อ … จนตราบเท่าคนดูแลผมกล่าวว่า ไอ้เด็กคนนี้มันพึ่งจะได้เหรียญทองโอลิมปิกพยายามโว้ย ผมก็แบบ … อ๋อหรอ ? แล้วข้าจำเป็นที่จะต้องกลัวมั้ยเนี่ย ?”
ฮันเซเกอร์ รายงานในปี 1992 ตรงกันข้ามกับเด็กวัยรุ่นอย่าง อาลีด้วยเหตุว่าคุยโตไว้มากมายว่าจะชนะแน่ ๆ รวมทั้งแชมป์โลกก็ควรเป็นของเขาแน่ไม่เร็วก็ช้า ต่อยกับผู้ใดก็ไม่มีความจำเป็น เขากลับไปนอนเครียดและก็คิดมากว่าถ้าเกิดแพ้จะเป็นยังไง
“พูดขวานผ่าซากข้างหลังได้รางวัลนวมทองผมมั่นอกมั่นใจมากมาย ๆ เลย ในใจลึก ๆ ผมมั่นใจว่าผมจะเป็นแชมป์โลกได้ไพเราะโอลิมปิกผมก็ทำเป็นมาแล้ว เพียงวันก่อนขึ้นสังเวียนผมกลับนอนประหม่า แล้วก็สั่นเทิ้มเนื่องจากบีบคั้นระดับหนึ่ง แต่ว่าก็นะ เลือกแล้วหลังจากนั้นก็จำต้องไปให้สุด
บิดามารดาของผมไม่ใช่คนมั่งมีอะไร ถ้าเกิดผมเป็นนักต่อยอาชีพ ผมก็จะเริ่มทำเงินได้ ยิ่งหากได้ต่อยรายการใหญ่ ๆ แบบที่มีโทรทัศน์ถ่ายทอดสดครั้งคราวผมบางทีก็อาจจะได้ไฟต์ละ 4,000 ดอลลาร์ โน่นมากยิ่งกว่าเงินที่บิดาผมดำเนินงานตลอดปีเสียอีก” อาลีกล่าว
ทุกคนเข้าใจกันอยู่อยู่แล้วว่าผู้ใดกันเก่งกว่าคนใดกันแน่ เพราะเหตุว่าสถานะการณ์นี้ผ่านมากมายว่า 50 ปีแล้ว
แต่ว่าย้อนกลับไปในวินาทีนั้น ฮันเซเกอร์ เป็นมนุษย์คนแรกที่ได้เผชิญกับ อาลีในเวอร์ชั่นที่ยอดเยี่ยมและก็พีคที่สุด เขาโดนผลาญยับรวมทั้งทราบด้วยตัวเองว่า อาลีเกินระดับที่เขาจะต่อต้านไหวอย่างเห็นได้ชัด นี่เป็นแมตช์ที่เขารู้สึกว่าเขาแพ้แบบกินขาดที่สุด
“แรก ๆ ผมก็พอเพียงจะสร้างความยากแค้นให้เขาได้บ้าง ผมต่อยที่ท้องของเขาได้ในตอนชูที่ 2 ยกที่ 3 จนถึง อาลีบอกผมว่า นี่คุณลุงตุ๊ยท้องผมหนักกระทั่งแทบอาเจียนออกมาเป็นเบอร์เกอร์ที่รับประทานไปเมื่อเช้าเลยจ๊า” มวยไทย
ฮันเซเกอร์ เล่าว่า อาลีมิได้หวั่นใจแต่ว่ายังชวนขันใส่เขากลับด้วย ข้างหลังผ่านยก 3 ของแท้เริ่มขึ้น อาลีเครื่องร้อนและก็ท่าทางการต่อยของเขาก็เข้าเกียร์ 5 ไว หนัก แล้วก็ซัดไม่ยั้ง หมัดของ อาลีมาจากทั่วทิศ ฮันเซเกอร์ ทราบได้เลยว่าการต่อยท้องอาลีในยกที่ 3 เป็นหมัดท้ายที่สุดที่เขาจะทำเป็นแล้ว
“พระผู้เป็นเจ้า นาทีนั้นผมบอกกับตนเองว่า นี่พวกเราแก่เกินความจำเป็นแล้วจริง ๆ สำหรับไอ้หมอนี่ เด็กวัยรุ่นอายุ 18 คนนี้ผมหมดทางสู้ไหวเลย แขนยาวเป็นต่อตอนต่อย แค่นี้ไม่พอคุณอาจควรจะมีตาสัก 8 คู่เพื่อจะดูหมัดของเขาให้ทัน เพราะเหตุว่าแม่งโคตรจะมากมายและก็มาทุกทิศทางเลย
ยิ่งต่อยไปผมยิ่งดูอะไรบางอย่างของเขาได้ หมอนี่มันเยี่ยมจำพวกที่ว่าตลอดระยะเวลาที่เขาต่อยกับผม เขาไม่กะพริบตาเลยสักหนึ่งครั้ง” ฮันเซเกอร์ เล่าต่อ ครบ 6 ยกเสือชราอย่าง ฮันเซเกอร์ ก็ไม่มีแรงเสียแล้ว เขาแพ้แต้มให้กับ อาลีแบบสู้ไม่ได้
แม้กระนั้นอย่างต่ำ ๆ ก็เป็นไฟต์เปิดตัวที่ทำให้ทุกคนได้มองเห็นท่าทางพริ้วราวกับผีเสื้อต่อยเจ็บเสมือนผึ้งด้วยตาตนเอง ช่วงเวลาที่ อาลีเปลี่ยนเป็นด้ามจับตามองของโลกที่หมัดมวย ฮันเซเกอร์ ก็วางมือภายหลังจากความปราชัยตอนนั้นไม่นาน
เขารู้แล้วว่าตนเองหมดเวลาสำหรับมวยอาชีพแล้ว รวมทั้งหันกลับไปดำเนินงานเป็นตำรวจเพียงอย่างเดียว ครั้งใดก็ตามเขาทำงาน อาลีที่เติบโตขึ้นก็ชนะมากยิ่งขึ้น สหายร่วมงานของ ฮันเซเกอร์ ชอบถามเขาเสมอว่าในเวลาที่ต่อยกับ อาลีเป็นเยี่ยงไรบ้าง
รวมทั้ง ฮันเซเกอร์ ก็บอกผู้ที่ถามเขาเสมอว่า “ถ้าเกิดได้โอกาสชิงชนะเลิศเมื่อไร หมอนี่เป็นแชมป์โลกแน่ ๆ คนจำนวนไม่น้อยชอบถามผมเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการที่ได้ต่อยกับเขา ภายหลังการต่อยตอนนั้นผมเคยถูกทนายคนหนึ่งถามคำถามว่า ‘คุณรู้สึกว่า อาลีเป็นไงบ้าง ?’ ผมตอบเขากลับในทันทีในเมื่อใดก็ตามมีคนถามคำถามว่า ‘เขาจะเป็นแชมป์โลกแน่ ๆ ในอีกไม่นานนี้”
ทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่างเป็นจริงดังที่ อาลีได้คุยโตไว้ และก็เป็นไปตามที่ ฮันเซเกอร์ พยากรณ์ ภายหลังจากจบไฟต์นั้น อาลีเดินหน้าชนะเป็นว่าเล่น จนกระทั่งครอบครองแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตยุคแรกด้วยการเอาชนะ ชอนนี่ ลิสตัน ในปี 1964