แชมป์เวทีระดับประเทศ วันหลังสั่งสมประสบการณ์มาพอดี ทาอิกิครอบครองแชมป์ ชู้ต บ็อกซิ่ง
แชมป์เวทีระดับประเทศ เวทีชั้นนำระดับประเทศของญี่ปุ่นในปี 2557 เมื่ออายุ 18 ปี ต่อมา เขาได้ช่องได้ลงแข่งขันในรายการอาร์ไอเอสอี ซึ่งเป็นเวทีคิกบ็อกซิ่งที่ยิ่งใหญ่แล้วก็มีชื่อเสียงในประเทศประเทศญี่ปุ่น
โดยได้เผชิญหน้ากับ เทนชิน นาสึกาวา อริเก่าของ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” ถึงสองครั้ง และก็เสียเชิงแพ้ไปทั้งสองครั้ง ทาอิกิกลับมาสู้ต่อในรายการนี้จนกว่าสามารถคว้าแชมป์อาร์ไอเอสอี ในรุ่น 57 กก. ได้ผู้หนุนหลังที่สุด ซึ่งเป็นรางวัลที่เขาพึงใจเยอะมาก จะรักที่เคารพ
ทาอิกิเป็นศิษย์น้องคนคุ้นเคยของ “ฮิโรอากิ ซูซูกิ” นักสู้จอมอึดที่เคยท้าชิงแชมป์กับ “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” มาแล้ว โดยทั้งคู่เจอะกันเมื่อครั้ง ทาอิกิพึ่งจะเริ่มต่อยคิกบ็อกซิ่งตอนอยู่ชั้นมัธยม ทาอิกิวางใจ ซูซูกิ ในฐานะรุ่นพี่รวมทั้งผู้ฝึกสอนที่คอยให้คำแนะนำในการพัฒนาความรู้ความเข้าใจการต่อสู้ของเขาตลอดมา
โดยในตอนนี้ทั้งคู่ฝึกซ้อมอยู่ในกรุ๊ปเดียวกันที่ เบล วู้ด ไฟท์ กลุ่ม ประเทศญี่ปุ่น ทาอิกิเปิดตัวใน วัน แชมเปียนชิพ เมื่อตุลาคม 2562 แล้วก็ภายในเวลาเพียง 4 เดือนเขาปราบคู่แข่งขัน 3 รายในรุ่นฟลายเวต ดังเช่นว่า “อเล็กซี เซเรพิซอส”, “รุย โบเทลโฮ” และก็ “ซาวาส ไมเคิล (เพชรยินดีอะคาเดมี)”
โดยชัยทั้งหมดเป็นการแข่งขันในกติกามวยไทย ในช่วงเวลานี้ ทาอิกิถือครองสถิติชนะ 4 ครั้งจาก 5 ไฟต์ในวัน โดยพ่ายแพ้ให้แก่สมัยโบราณแชมป์โลกวัน มวยไทย รุ่นฟลายเวต “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” ผู้เดียวเท่านั้นเอง
แชมป์เวทีระดับประเทศ “เพชรดำ” ขอใช้หัวจิตใจสู้ “นาอิโตะ” พร้อมเดินหน้าถึงแม้ว่าจะถึงแชมป์
“เดอะ เบบี้ ชาร์ค” เพชรดำเพชรยินดีอะคาเดมี นักสู้สายเอนเตอร์เทน ขอใช้ความแข็งแรงของหัวใจเข้าสู้ “ไซเลนท์ สไนเปอร์” ทาอิกินาอิโตะนักต่อยจอมอึดจากดินแดนซามูไรในการคืนสังเวียนมวยไทยในศึกวัน:รีโวลูชั่น ซึ่งจะถ่ายทอดสดในวันศุกร์ที่ 24 กันยายน 2564
ภายหลังที่ไม่อาจจะล้มเจ้าบัลลังก์ มวยไทย รุ่นฟลายเวต อย่าง “รถถัง จิตรเมืองนนท์” ในไฟต์ชิงแชมป์โลกครั้งปัจจุบันนี้ (31 ก.ค. 63) เพชรดำก็กลับมาซุ่มฝึกฝนทำร่างกายอย่างเข้มข้นเพื่อรอวันคืนสังเวียนอีกครั้ง
โดยโอกาสนี้ เขาควรต้องเจอกับคู่แข่งชาวญี่ปุ่นที่ถือว่านักสู้เยอะมากความรู้ความเข้าใจและก็มีประสบการณ์อีกทั้งคิกบ็อกซิ่งและก็มวยไทย ทั้งยังมีอาวุธหมัดที่อันตรายและจากนั้นก็ประมาทไม่ได้ด้วย
เพชรดำรับสารภาพว่าไม่ใช่งานง่าย แม้กระนั้นเขาไว้ใจว่าการต่อยในกติกามวยไทยยังเป็นจุดเด่น เพราะเหตุว่าเมื่อดูความเก่งและก็ประสบการณ์การชกมวยไทยของ ทาอิกิแล้ว เพชรดำรู้สึกว่าเขาเหนือกว่าคู่แข่งขันอยู่หลายแต้ม
“ทาอิกิเป็นมวยสไตล์คิกบ็อกซิ่ง 100 % นะครับ มีความรวดเร็ว มีจังหวะสเต็ปการเข้าออกดี นอกจากนั้น ยังมีการเตะรวมทั้งหมัดที่รวดเร็วกระฉับกระเฉงล้นหลามครับผม หากแม้เขาจะเคยชกมวยไทยรวมทั้งชนะในกติกานี้มาบ่อยมากในวัน แต่เท่าที่ผมดู เขายังไม่ค่อยถนัดกับมวยไทยเท่าไร หากว่าเทียบความรู้ความเข้าใจ ข่าวมวย ออนไลน์
ผมว่าผมได้เปรียบกว่ามากมายครับ” นอกจากนี้ เพชรดำยังมั่นใจว่าไฟต์นี้เขาจัดแจงมาอย่างดีเยี่ยมเพื่อแก้เกมคู่แข่ง โดยเฉพาะการออกหมัดโดยมี “สุริยัน ศ.รุ่งวิสัย” อดีตสมัยแชมป์โลกดับเบิ้ลยูบีซี รุ่น 115 ป. มาช่วยถ่ายทอดความรู้ให้
ยิ่งไปกว่านี้ ทางค่ายเพชรยินดีฯ ยังคงใช้หลักวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาเสริมแข็งพลังลำแข้ง “ซ้ายสโลว์ไลฟ์” ที่เป็นอาวุธเด็ดของ เพชรดำอีกด้วย แต่เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่ เพชรดำแน่ใจเยอะที่สุดในเวลานี้เป็น หัวใจนักสู้ของตัวเองที่ไม่เคยกลัวกับความท้าข้างหน้าไม่ว่าจะมารูปแบบใด
ซึ่งจะเป็นสิ่งจำเป็นที่เขาคว้าชัยมาได้เพื่อเป็นอันมากดวงใจให้เขาเดินหน้าสู่เป้าหมายต่อไป “สำหรับไฟต์นี้ สิ่งที่ผมแน่ใจที่สุดน่าจะเป็นหัวใจของผมครับผม ผมไม่กลัวอะไร ผมพร้อมสู้เสมอไม่ว่าจะเจอเรื่องราวไหน
แล้วก็ผมก็จะเอาชนะไฟต์ให้ได้น่าฟังมันจะเป็นการกู้ความมั่นใจและความเชื่อมั่นของผมกลับคืนมาเพื่อไต่ชั้นขึ้นแรงกิงมวยไทยอีกครั้ง เพราะเหตุว่าจุดมุ่งหมายสูงสุดของผมก็คือขึ้นท้าชิงกับ รถถัง อีกสักหนึ่งครั้ง และก็ต้องการจะทวงสายรัดเอวแชมป์คิกบ็อกซิ่งกลับมาให้ได้”
5 เรื่องสำคัญจำต้องรู้! “ทาอิกิ นาอิโตะ” คู่แค้นตัวอันตรายของ “เพชรดำ” ศึกวัน:รีโวลูชั่น
“ไซเลนท์ พลแม่นปืน” ทาอิกินาอิโตะนักสู้จอมอึดเลือดซามูไร เป็นว่าที่ผู้แข่งขันตัวอันตรายในแรงกิงวัน มวยไทย รุ่นฟลายเวต ที่จะลงฟาดปากกับเพชรดำเพชรยินดีอะคาเดมี ในศึกวัน:รีโวลูชั่น ที่จะถ่ายทอดสดในวันศุกร์ที่ 24 ก.ย. 2564 ก่อนจะทั้งคู่จะประมือกัน
เราจะพาไปทำความรู้จักกับนักสู้ชาวอาทิตย์อุทัยวัย 25 ปี ให้ดียิ่งขึ้นใน 5 เรื่องแต่นี้ต่อไป แม่บังคับเรียนคาราเต้ ทาอิกิเป็นลูกชายคนกลางในบรรดาลูกพี่ลูกน้อง 3 คน เกิดและเติบโตในเมืองโตโยยาชิ ประเทศญี่ปุ่น
โดยแม่ส่งเขาแล้วก็ลูกพี่ลูกน้องเข้าชั้นเรียนคาราเต้ตั้งแต่วัยอนุบาลโดยหวังจะให้ศิลปะการต่อสู้สอนให้ลูกๆมีระบบระเบียบแล้วก็ศึกษาเล่าเรียนมารยาทสังคม ถึงแม้ ทาอิกิจะไม่ได้อยากเรียนสักเท่าไหร่ แต่ก็เข้าชั้นเรียนไม่เคยขาดเนื่องจากอยากได้เล่นกับเพื่อนเท่านั้นเอง คิกบ็อกซิ่งกลับชีวิต
เมื่อ ทาอิกิอายุได้ 8 ขวบ เขาได้แลเห็นนักต่อยวีรบุรุษชาวญี่ปุ่นลงแข่งขันในรายการเค-1 ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาเป็นจริงเป็นจังที่จะเป็นคิกบ็อกเซอร์มืออาชีพต่อจากนั้นมา แม้แม่ของเขาไม่เห็นพ้อง แต่ยังเปิดโอกาสให้ ทาอิกิพิสูจน์ตนเอง
โดยยื่นข้อโต้แย้งว่าเขาควรต้องครอบครองแชมป์คาราเต้ระดับประเทศให้ได้ก่อนก็เลยจะอนุญาตให้เดินตามฝันของตัวเอง หนึ่งปีต่อมา ทาอิกิครองแชมป์คาราเต้เสร็จรวมถึงตกลงปลงใจร่วมกลุ่มคิกบ็อกซิ่งในเมืองบ้านเกิดเมื่ออายุ 14 ปี โดยเริ่มต่อยอาชีพครั้งแรกเมื่อเข้าชั้นเรียนชั้นมัธยม