เคลียร์จบทุกปัญหา “ฤทธิ์เทวดา เพชรยินดีอะคาเดมี” เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะนักกีฬากองทัพ วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ (มวยไทย/คิกบ็อกซิ่ง) รุ่นแบนตัมเวต ของวัน
เคลียร์จบทุกปัญหา ข้างหลังผ่านสารพัดปัญหาที่ค้างคามาก่อนหน้านี้ ประกาศพร้อมฝ่าเต็มกำลังบนเวทีสุดยอด ข้างหลังค่ายฝึกซ้อมมวยเพชรยินดีฯ นำฤทธิ์เทวดา เข้าเซ็นสัญญาร่วมต่อยในรายการวัน ก็ปรากฏว่ามีกระแสข่าวเรื่องคำสัญญาเก่าที่ยังค้างคาอยู่ ก็เลยจำเป็นต้องจัดการตนเองให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
ซึ่งช่วงนี้ ทางสังกัดเดิมแล้วก็ฤทธิ์เทวดา ได้พิสูจน์ความโปร่งสบายใส แล้วก็พร้อมที่จะเดินหน้าบนเวทีสุดยอดอย่างสุดกำลัง “ฤทธิ์เทพยดา” หรือ “ปั่น” นักมวยชาว อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ วัย 25 ปี แรกเริ่มใช้ขึ้นอยู่กับค่ายฝึกมวย “สิทธิกุล” ของครอบครัว คำพูดหลังสู้
ซึ่งเป็นค่ายฝึกซ้อมมวยเล็กๆมีเวทีเดียวตั้งอยู่ที่บ้าน โดยมีผู้ช่วยเหลือให้ใช้สีเสื้อ “ส.นิภาพร” รวมทั้งสั่งสมเกียรติศักดิ์กระทั่งมีชื่อเสียงไปทั่วแวดวง ความสามารถของฤทธิ์เทวดา เรียกว่าหาตัวจับยาก
ดังเช่นว่า แชมป์สนามแข่งมวยเวทีลุมพินี, แชมป์ดับเบิ้ลยูเอ็มซี รวมทั้ง แชมป์สนามแข่งมวยเวทีช่อง 7 สี แล้วก็ยังมีประสบการณ์ผ่าศึกมาแล้วถึง 195 ไฟต์ (ชนะ 154 แพ้ 38 เสมอ 3) แถมยังเคยชกมวยสากลสมัครเล่นกลุ่มชาติไทยอยู่ระยะหนึ่ง
เคลียร์จบทุกปัญหา ด้วยความเก่งกล้ารอบด้าน ก็เลยมีค่ายมวยใหญ่มาทาบทามให้เข้าขึ้นอยู่กับบ่อย
แต่ว่าเขาก็ยังไม่ยินยอมกับค่ายใด จนถึงปัจจุบันฤทธิ์เทวดา ตกลงใจหันไปซบอกค่ายใหญ่อย่าง “เพชรยินดีอะคาเดมี” โดยหวังจะบรรลุผลสำเร็จในเวทีสุดยอดสะกดรอยเพื่อนฝูงร่วมค่ายอย่าง “เพชรมรกต” แชมป์โลกวัน มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต,
“กัปปิตัน” แชมป์โลกวัน คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต และก็ “เพชรดำ” อดีตกาลแชมป์โลกวัน คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ดังนี้ฤทธิ์เทวดา วางเป้าไว้ว่าจะลงแข่งขันทั้งยังในข้อตกลงมวยไทยแล้วก็คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต (61.3-65.8 กิโลกรัม)
ซึ่งเนืองแน่นไปด้วยยอดความสามารถทั้งยังไทยแล้วก็เทศ อาทิเช่น เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์, ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, รถเหล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย, แสงมณี ส.กาแฟมวยไทย, เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส ข่าวมวย ออนไลน์
รวมทั้งนักกีฬาต่างชาติ อาทิเช่น ฮิโรกิ อากิโมโตะ, อลาเวอร์ดี รามาซานอฟ, จาง เฉิงหลง อื่นๆอีกมากมาย ที่สำคัญ เจ้าตัวยังมองไกลไปถึงบัลลังก์แชมป์ทั้งสองชนิดกีฬา
โดยฝั่งกีฬาชกมวยไทยนั้นมีแชมป์โลกฆ่าไม่ตายอย่าง “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” ที่เคยเป็นนิสิตเก่าค่ายเพชรยินดีฯ ครองบัลลังก์อยู่ ส่วนในสายคิกบ็อกซิ่งก็มี “กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี” ซึ่งอยู่ขึ้นอยู่กับเดียวกันเป็นเจ้าของเข็มขัด โดยเป็นที่น่าติดตามว่าทางสู่บัลลังก์แชมป์ของฤทธิ์เทวดา บนเวทีวัน จะเป็นยังไงถัดไป
“เสมาเพชร” ลั่นจัดแจงจัดหนัก ฤทธิ์เทวดาศึกวัน:เน็กซ์เจน2 12 เดือนพฤศจิกายน64
เพื่อแฟนกีฬาได้มันกันอย่างไม่ขาดตอน วัน แชมเปียนชิพ รีบจัดโปรแกรมล่วงหน้ารอบเดือนพ.ย.สองนัดหมายรวด ในชื่อศึกวัน:เน็กซ์เจน2 รวมทั้งวัน:เน็กซ์เจน2I ซึ่งจะกระจายเสียงในต้นแบบเทปการประลอง วันศุกร์ที่ 12 รวมทั้งวันศุกร์ที่ 26 พ.ย. 2564 เป็นลำดับ
เริ่มกันที่ศึกวัน:เน็กซ์เจน2 วันศุกร์ที่ 12 เดือนพฤศจิกายน64 เอาอกเอาใจแฟนหมัดมวยคนไทย ด้วยศึกเชื้อสายเดือดระหว่าง “เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์” ผู้รั้งชั้น 1 แรงกิงวัน มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (61.3 – 65.8 กิโลกรัม)
ซึ่งแต่เดิมถูกวางตัวให้เปิดศึกกับเพื่อนรัก “พระอาทิตย์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” แม้กระนั้นด้วยเหตุการณ์ไม่เป็นใจทำให้จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์เสมาเพชร ก็เลยจะต้องมาปฏิบัติภารกิจรับน้องใหม่ป้ายแดง “ฤทธิ์เทวดา เพชรยินดีอะคาเดมี” ยอดนักมวยมีชื่อจากเมืองจังหวัดสุรินทร์
โดยทั้งสองจะประมือกันในข้อตกลงมวยไทย 3 ยก สวมนวมเอ็มเอ็มเอ ขนาด 4 ออนซ์ในฐานะคู่เอกของรายการ ส่วนคู่รองเป็นการเจอหน้ากันระหว่างนักกีฬาดีเด่นจากดินแดนมังกร “ถัง ไค”
รวมทั้ง ยูน ชาง มิน นักสู้จอมเข้มแข็งจากดินแดนกิมจิ ในข้อตกลงการต่อสู้แบบผสม (เอ็มเอ็มเอ) รุ่นเฟเธอร์เวต (65.9 – 70.3 กิโลกรัม) ต่อกันด้วยภาคสามกับศึกวัน:เน็กซ์เจน2I วันศุกร์ที่ 26 เดือนพฤศจิกายน64
ซึ่งจับสายโหดเหี้ยมกลุ่มกางเกงแดง ลิโต อาดิวัง มารับน้องใหม่จากอเมริกา จาร์เร็ด บรูกส์ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาทั้งสองต่างตั้งตัวเป็นศัตรูคู่กรณี ฉะฝีปากกันไปๆมาๆตั้งแต่ยังไม่เคยเจอหน้า
คราวนี้ก็เลยเป็นจังหวะที่กำลังจะได้พิสูจน์ฝีมือว่าคนไหนกันแน่จะเยี่ยมกว่าในข้อตกลงการต่อสู้แบบผสม (เอ็มเอ็มเอ) รุ่นสตรอคอยว์เวต (52.3 – 56.7 กิโลกรัม) ร่วมด้วยการกลับคืนสังเวียนของนักต่อยจอมบู๊คนประเทศไทย
“แฝดอโยธยา” พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ที่พร้อมโชว์สปิริตนักสู้หัวใจใหญ่มากยิ่งกว่าตับ กับสมัยก่อนแชมป์โลกวัน คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต อลาเวอร์ดี รามาซานอฟ ที่ถูก “กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี” ฉุดกระชากเข็มขัดแชมป์ไปซึ่งๆหน้าเมื่อมกราคมก่อนหน้านี้
โดยศึกนี้ทั้งสองจะพบกันในข้อตกลงมวยไทย 3 ยก รุ่นแบนตัมเวต (61.3 – 65.8 กิโลกรัม) ซึ่งนับว่าเป็นหนแรกที่ อลาเวอร์ดี กลับมาต่อยข้อตกลงมวยไทยในรอบสองปีกว่า