แปลงเป็นกระแสฮือฮาก้องกังวานโซเซียลอีกทีเมื่อ วัน แชมเปียนชิพ ปลดปล่อยคลิปวิดีโอที่ “ชาตรี ลูกศิษย์ยอดธง” ประธานรวมทั้งซีอีโอกำลังฝึกหัดมวยไทยอย่างเข้มข้นผ่านอินสตาแกรมพร้อมแคปชันแปลมีอิสรภาพยว่า “ผู้ใดกันต้องการมองคู่ ชาตรี-ดานา บ้าง?”

แล้วหลังจากนั้น เรื่องนี้ก็เปลี่ยนเป็นไวรัลทั้งโลกโซเชียล โดยมีบรรดานักกีฬา ONE จากทั่วทั้งโลกเข้ามาคอมเมนต์กันถล่มทลาย รวมทั้งต่างพร้อมใจกันเชียร์ให้ศึกกระชับมิตรระหว่างหัวหอกของสองหน่วยงานกีฬาที่ขึ้นชื่อว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลกจากฝั่งอเมริกาแล้วก็ทวีปเอเชียเกิดขึ้นจริง

เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า บิ๊กบอสที่ ONE นั้นฝึกหัดมวยไทยมาตั้งแต่ยังเด็กและก็ยังเป็นเจ้าของสายรัดเอวสายสีน้ำตาลในกีฬาบราซิลเลียนชาวยิวยิตสูอีกด้วย ตอนที่ “ดานา ไวต์” แม่งานของ UFC ก็ได้ชื่อว่ามีความสามารถการต่อยมวยสากลเหมือนกัน ฉะนั้นถ้าหากได้พบกันจริงๆก็น่าจะเป็นมวยถูกคู่

ในโอกาสนี้ “ครูตอง” ชนนดี ต่างประเทศชัย นักกีฬาการต่อสู้แบบประสมประสาน (MMA) รุ่นไลต์เวต รุ่นเริ่มต้นแล้วก็นับว่าเป็นเบอร์ต้นๆของไทย ซึ่งชำนาญอยู่ในแวดวงกีฬานี้มานานกว่า 10 ปี ก็ไม่พลาดที่จะออกมาแสดงความเห็นในหัวข้อนี้

“ทั้งยังคุณชาตรี และก็ ดานา ไวต์ มีประสบการณ์ในเรื่องของศิลป์การต่อสู้ แต่ว่าถ้าเกิดมองดูในเรื่องของความสม่ำเสมอสำหรับการฝึกฝนมาจนกระทั่งช่วงนี้ จำเป็นต้องชูให้ คุณชาตรี ที่มีความสม่ำเสมอกว่า แม้กระนั้นในเวลาเดียวกัน ดานา ก็มีความเป็นต่อในเรื่องของรูปร่าง”

“ในเรื่องของความถนัด พวกเราไม่เคยรู้ในทางฝั่งของ ดานา มากเท่าไรนัก เพียงแค่พวกเราได้มองเห็นตลอดว่า คุณชาตรี ฝึกซ้อมมวยไทยจากคุณครูมวยไทยระดับแชมป์โลกคนไม่ใช่น้อย รวมทั้งเพิ่งจะได้สายน้ำตาลในวิชาบราซิลเลียนชาวยิวยิตสูด้วย นี้ทำให้อุ่นใจเรื่องความสามารถได้มาก”

“ส่วนเรื่องจิตใจ คุณชาตรี มีความคลั่งไคล้และก็มีจิตใจของนักศิลป์การต่อสู้มากยิ่งกว่า ดานา แน่ๆ นี่ก็เป็นอีกจุดที่บางทีอาจชี้การวินิจฉัยได้”

“แม้แมตช์นี้เกิดขึ้นจริง รูปเกมคงจะเป็นทาง ดานา ใช้ความใหญ่รวมทั้งความแข็งแกร่งเข้าจู่โจมอย่างมาก คุณชาตรี บางทีอาจจำเป็นต้องใช้เวลาสำหรับเพื่อการปรับเหตุการณ์ให้เข้าทางตนเอง แม้กระนั้นท้ายที่สุดแล้ว ผมมั่นใจว่า คุณชาตรี จะสามารถเอาชนะไปได้ ดังคำที่ว่าความเดือดช่วงสั้นๆ สู้ความสม่ำเสมอเบาๆแม้กระนั้นยาวมิได้นะครับ”

จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ดูเหมือนกับว่ากระแสนี้ยังคงแรงไม่หยุด ซึ่งแม้มีคู่รักกีฬาเยอะๆอยากที่จะให้ศึกนี้เกิดขึ้นจริง สองบิ๊กบอสบางทีอาจใจอ่อนยอมเปิดศึกนี้ก็ได้ ซึ่งก็จะเป็นการปรากฏครั้งยิ่งใหญ่ที่สั่นแวดวงต่อสู้สุดยอด รวมทั้งจะเป็นการกระชับมิตรของทั้งคู่หน่วยงานใหญ่อย่างแน่แท้

สิ่งแรก น่าจะเป็นตัวอย่างในช่วงที่อะไรได้มาอย่างไม่ยากเย็นๆไม่ต้อง พยายาม อุตสาหะ พากเพียร รวมทั้งสอง ที่ต่างชาติเขาได้รับการยินยอมรับมากมาย เลื่องลือและก็ถูกสื่อมาขอทำสกู๊ปสัมภาษณ์ว่า เด็กยากจน ยากจน ประสบผลสำเร็จเป็นนักธุรกิจหมื่นล้านได้เช่นไร

แต่ว่าเพราะเหตุไรคนประเทศไทยแทบไม่เคยทราบเรื่องราว ‘ชายหนุ่มไทย’ รายนี้ในหน้าสื่อมาก่อน, เป็นความคิดที่ผุดขึ้นมาระหว่างนั่งพูดคุยบนเก้าอี้นุ่ม อุ่นจากอุณหภูมิตัว

‘ธุรกิจที่บ้านล้มละลายตอนอายุ 20 จากที่เคยรับประทานอยู่แบบเป็นสุข’ บิดาทิ้งเราไปแบบไม่มีสายสัมพันธ์ ทำให้ทั้งยัง 3 (แม่รวมทั้งน้องชาย) เปลี่ยนเป็นคนไม่มีที่อยู่ ไม่มีที่ซุกหัว เมื่อทนความหนาวไม่ไหวก็เลยจำเป็นต้องแอบพาคุณแม่ไปหลับในห้องห้องเช่าที่ ‘ฮาร์วาร์ด’ ตรากตรำ อดอยาก กอดคอกันร้องไห้ทุกวี่วัน เพราะว่ามองไม่เห็นฝั่งฝันอนาคต เป็นอย่างงั้นอยู่ยาวนานหลายปี

“พวกเราร้องไห้กันบ่อยครั้ง…’ ชายเบื้องหน้าผมนิ่ง ก้มตัวไม่สู้สายตากล้องถ่ายรูปที่กำลังจ้องแววตา ความตั้งใจแปลงเป็นเสียงสั่นเครือ ดวงตาเริ่มเปลี่ยนแปลง ร้องเพราะว่าไม่เห็นอนาคต บ่อยครั้งแม่จำต้องอด เพื่อผมกับน้องได้รับประทานข้าว

“ขออภัยครับผม ผมแทบร้องไห้ออกมา ห่วยจริงๆเลย” เขาเสียงเครือๆเชื่อไหมภาพความ ‘อนาถา’ ภาพน้ำตาที่อาบแก้มซ้าย-ขวายังติดตรึงพวกเขาจนถึงวันนี้

ไทยเมืองออนไลน์ได้โอกาสคุยกับ นักธุรกิจชายหนุ่มผู้ครอบครองชีวิตดราม่า มั่งมี จนกระทั่ง ไม่มีบ้าน อดๆอยากๆ ชีวิตขึ้นสุด-ลงสุดเน่ามากกว่านิยาย เรื่องเล่าชีวิต ความทุกข์ยาก แต่ถ้าว่าแปลงเป็นแรงดลใจที่ถูกรายการเกือบจะทั้งโลก ขอทำสกู๊ปสัมภาษณ์ ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-ประเทศญี่ปุ่น เจ้าของกิจการหลายหมื่นล้าน

เร่ิมต้นชีวิตผมมิได้ตรากตรำเยอะมาก…ลูกครึ่งไทย-ประเทศญี่ปุ่น ติดต่อภาษาไทยชัดราว 70% รวมทั้งว่า ตอนอายุ 14 ปี ที่บ้านมีฐานะ พ่อทำธุรกิจที่ดิน จนถึงอายุ 20 บ้าน รถยนต์ เงินที่เคยมี ก็หมดไปเนื่องจากว่าธุรกิจล้มละลาย จากที่เคยมีเงิน มีบ้าน ครอบครัวก็เปลี่ยนเป็นคนยากจนในทันที

บิดา-แม่แยกทางกัน เป็นตอนๆหัวเลี้ยวหัวต่อที่กำลังจะสมัครเข้าเรียน ‘ฮาร์วาร์ด’ มีความคิดว่าบางทีอาจจะไม่ไปแล้วก็ดำเนินงานอยู่ประเทศไทย เพราะว่าขาดเงิน แม้กระนั้นม่าม้ามีความเชื่อมั่น แล้วก็พูดเฉไฉมอว่าชาตรี ยูเป็นลูกคนโต คุณเป็นความหวัง แม้กระนั้นยังไม่รู้เรื่องจะหลุดพ้นที่ตรงนี้ได้อย่างไร เนื่องจากชีวิตอดอยาก และก็จนหนทางแนวทางมากมาย

“บางโอกาสแอบมองเห็นแม่อด เพื่อที่จะได้ให้พวกเราได้รับประทานอิ่ม ตอนนั้นผมร้องไห้หลายครั้ง…” เขานิ่งรวมทั้งว่า เชื่อไหมพูดถึงมาแล้วภาพนั้นยังติดตา ร้องไห้ ด้วยเหตุว่าไม่มีอนาคต บ้านไม่มี เป็นไปไม่ได้ออก น้องชายอายุ 15 จะไปสถานที่เรียนอย่างไร เสมือนพวกเราโดนทิ้งจากบิดา และก็ถูกผลักให้เปลี่ยนเป็นผู้นำครอบครัวแบบมิได้ตั้งตัว ตอนนั้นเป็นตอนที่ทุกข์ยากมากมาย

ดิ้นรนกระทั่งเดินทางไปศึกษาต่อที่ฮาร์วาร์ดได้ แม้กระนั้นชีวิตตรากตรำ ยากจน รับประทานวันละมื้อก็เคยมาแล้ว เพื่อคิดเงินที่ได้จะส่งเงินไป เดือนหนึ่งโทรกลับไปพบแม่ได้น้อยมาก โทรทีละเพียงแค่ 1 นาที

“มีอยู่คราวหนึ่งพวกเราร้องไห้กันมากมาย มีความรู้สึกว่าเพราะเหตุใดจำเป็นต้องตรากตรำแบบงี้ แล้วก็โน่นเป็นคราวสุดท้ายที่ตนร้องไห้ที่ฮาร์วาร์ด ภายหลังจากพามาอยู่ตรงนี้ได้ แต่ว่าช่วงเวลาค่ำคืนก็จำต้องแอบพาแม่อยู่ด้านในห้องพัก ธรรมดาที่พวกเราอาศัยอยู่ที่ฮาร์วาร์ดเข้า-ออกได้ แต่ว่าค้างมิได้ แม้กระนั้นแม่ไม่มีที่อยู่ พวกเราอาศัยนอนพื้น ให้แม่นอนบนเตียง ชีวิตเป็นอย่างนั้นอยู่ 2 ปี”

อยู่ข้างในห้องคุยอะไรกัน? – ผมสงสัย, ร้องไห้กันบ่อย เขาย้ำ แม้กระนั้นแปลกอย่างที่บอก แม่เชื่อมั่นในตัวเรามากมาย มากยิ่งกว่าพวกเรามั่นใจในตัวเอง ถ้าเกิดไม่มีแม่ก็ไม่เคยรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

“แม่เป็นแรงกระตุ้นพวกเราเป็นประจำสิ่งที่ท่านจะกล่าวเสมอๆ’ชาตรีคุณเป็นคนพิเศษ ยูทำเป็น และก็ถ้าได้โอกาสจำต้องช่วยโลก มอบโอกาสกับทุกคน’ แม่เป็นอย่างยิ่งดวงใจ แล้วก็ให้พลังสู้ อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมต่อสู้ความทุกข์ยากไปได้เป็น ‘ผมมีมวยไทยอยู่ในสายโลหิต’ ชีวิตบางทีอาจจะตรากตรำมากมาย แต่ว่ามวยไทยทำให้ผมมีใจสู้ ไม่ท้อถอยกับปัญหามากไม่น้อยเลยทีเดียว” สมัยก่อนนักมวย สมญานาม ‘ลูกศิษย์ยอดธง’ ที่ดำรงชีวิตด้วยการชกมวยหาเลี้ยงตัวที่ต่างถิ่นพูดยังงั้น

‘วิถีนักมวย’ เร่ิมเข้ามาในชีวิตเขา ตั้งแต่อายุ 13 ที่ ‘ค่ายลูกศิษย์ยอดธง” พัทยา อาจารย์ยอดธง ห้อยท้ายว่า ‘ชาตรี ลูกศิษย์ยอดธง’ จนกระทั่งวันนี้ยังฝึกอยู่วันแล้ววันเล่าเป็นระยะ 30 ปี ที่อยู่บนสังเวียน

“ที่อเมริกาผมต่อยมวยเนื่องจากว่ามันทำให้รอดตายจากความยากจนข้นแค้น หลายคราวดวงใจหดหู่ แม้กระนั้นการฝึกอบรมมวยไทย ทำให้ร่างกาย จิตใจแข็งแกร่งและก็ฝ่าฟันขวากหนามมาได้ การฝึกฝนทั้งยังภายใน ความแข็งแกร่ง ความทรหดอดทนของหัวใจ ด้านนอก ความแข็งแรง ความทรหดอดทนของร่างกายทั้งหมดทั้งปวงนี้ผมศึกษาจาก เพื่อนฝูงๆนักมวยอาจารย์ยอดธง” เนื้อหาในสัญญา

ผมมีสหายเป็นนักมวยมาก ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยวันนั้นแปลงเป็นระดับยอดเยี่ยมของอาชีพ ซึ่งที่ผ่านมาพวกเขาชีวิตห่วยแตกกว่าผมมากมาย จนถึง ทุกข์ยากลำบากกว่าผมมากมายๆแต่ว่าเขายังสุขสบาย ฝ่าฟันมรสุมแบบไม่ท้อถอยได้ ทั้งสิ้นนี้เป็นตัวอย่าง เป็นต้นแบบที่ทำให้พวกเราทรหดอดทน จนถึงวันนี้ผมใช้สิ่งพวกนั้นต่อสู้สร้างธุรกิจต่างๆและก็เปลี่ยนเป็นนักธุรกิจที่มีเงินได้

ต่อยมวยคราวแรกเป็นอย่างไร? เจ็บสิ เขาหัวเราะ ทุกแมตช์เจ็บมากมาย ผู้ที่เล่นเพื่อสุขภาพ จะไม่เจ็บ แต่ว่าเมื่อไรที่ขึ้นเวทีเจ็บมากมาย ทุกคราวต่อยเสร็จจะเดินมิได้ 1 อาทิตย์ เนื่องจากโดนเตะขา หรือมีแผลแตกจะต้องพักรักษาตัวนาน

“แมตช์แรกในชีวิตแพ้แต้ม เมื่อใดก็ตามแพ้พวกเราจะเศร้าใจร้องไห้ เนื่องจากว่าทั้งหมดทุกอย่างผมตั้งใจ 100% แพ้ก็โศกสลด พอใช้ได้พักก็ยืนขึ้นมาเอาใหม่ ผมเป็นมวยบู๊ ถนัดใช้หมัด แต่ว่าทึ่ม ถูกใจบุก กว่า 30 แมตช์ชนะมากยิ่งกว่าแพ้ ศิลป์ป้องกันภัยคุณอาจจะมีความคิดว่าสู้กับบุคคลอื่น แม้กระนั้นความเป็นจริงจำเป็นต้องสู้ตนเองก่อน ก่อนขึ้นเวทีหลายหน รู้สึกกลัว ปราศจากความมั่นอกมั่นใจ แม้กระนั้นเพียงพอขึ้นเวทีพึงพอใจนิ่ง มวยเป็นกีฬาที่จำเป็นต้องสู้กับตนเองมากมายก่ายกอง”

ผู้ครอบครองค่ายฝึกมวยที่ประเทศสิงคโปร์ย้ำว่า ที่สุดจากความชอบพอ กีฬาที่ใช้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องหาเลี้ยงชีพตอนยากจนข้นแค้น แปลงเป็นธุรกิจค่าเป็นอย่างมากปัจจุบันที่เขาตั้งอกตั้งใจสร้างขึ้นมา