คืนเชือดหมู ทุกคนรู้ดีว่า ไมค์ ไทสัน เป็นนักมวยระดับแชมป์โลกที่เคยผ่านการถูกทำโทษโดนขังตารางอยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง และก็มันทำให้โลกหมัดมวยนึกถึงเขาเป็นอย่างยิ่ง

คืนเชือดหมู จนกระทั่งนับวันคอยให้เขาออกมาและก็ต่อยกับใครบางคนบนเวทีให้หายข้องใจ”ทุกคนต้องการมองเห็นเขาไล่ตีใครซักคน”.. โน่นเป็นสิ่งที่ ดอน คิง โปรโมเตอร์ของไทสันถอดรหัสได้ รวมทั้งเรียกเอานักมวยโนเนมอย่าง ปีเตอร์ แม็คนีลี่ย์ ขึ้นมารับบทบาทนั้น

คืนเชือดหมู

ในไฟต์ที่ไทสันและก็ดอน คิง โกยเงินเกือบจะ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา กำเนิดอะไรสังกัดผู้แพ้อย่าง แม็คนีลี่ย์ ที่แพ้แบบสู้ไม่ได้ในวันนั้นบ้าง? ติดตามไฟต์แรกข้างหลังออกมาจากตารางของไทสันพอดีนี่ ข่าวมวย ออนไลน์

ปี 1991 แวดวงมวยสากลจำต้องพบกับเรื่องนึกไม่ถึงเมื่อ ไมค์ ไทสัน แชมป์โลกเฮฟวี่เวตที่ทำสถิติอายุต่ำที่สุดในวันที่คว้าสายรัดเอวแชมป์ ผู้ครอบครองสมญานามและก็คำชื่นชมต่างๆจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น “มูฮัมหมัด อาลี คนถัดไป” จะต้องถูกศาลวินิจฉัยให้ติดตะรางเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 6 ปี

เรื่องราวทั้งสิ้นเกิดขึ้นจากข้อกล่าวหาที่ว่าเขากระทำชำเรา เดสิรี วอชิงตัน เด็กหญิงวัย 18 ปี หนึ่งในผู้เข้าร่วมการประกวดสาวงามกางล็ก โรด ไอส์แลนด์ ในบังกะโล ซึ่งถึงแม้ไทสันจะโต้เถียงชนฝาว่า ข้างหญิงเป็นฝ่ายรุกไล่เขาก่อนดังผู้หญิงอีกผู้คนจำนวนมาก แม้กระนั้นโน่นไม่ช่วยทำให้เขารอดพ้นข้อผิดพลาดฐานกระทำชำเราและก็พรากเยาวชนอยู่ดี

“เป็นชีวิตวัยเด็กของผมเนี่ยได้พบกับบางสิ่งบางอย่างที่น่าสยองรวมทั้งสิ่งที่ผมไม่ชอบใจมาเยอะมาก ฉะนั้น ผมรู้สึกว่าการได้อยู่ในเรือนจำมันง่ายดายยิ่งกว่าเยอะแยะเลยค่ะ” ไทสันเล่าถึงความรู้สึกก่อนเดินเข้าตารางและก็คิดว่าโน่นไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรกับเขาเลย

ไทสันบอกเสมอว่าตอนที่อยู่ในเรือนจำ เขาสามารถมีได้อีกทั้งสารเสพติดแล้วก็เซ็กซ์ แม้กระนั้นโน่นใช่สิ่งที่มนุษย์ต้องการของทุกคนจริงๆหรือ? นานวันเข้าสิ่งพวกนั้นก็เปลี่ยนเป็นเปลือก แก่นที่จริงจริงรวมทั้งหลบซ่อนอยู่เป็นความอิสระ ที่ยิ่งนานวัน ไทสันก็ยิ่งนึกถึงมัน คร่ำครวญหาจะออกไปพบกับชีวิตจริงๆเพิ่มมากขึ้น อย่ามาหยามกัน

การต่อว่าดอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ทรุดโทรมมีผลต่อภาวะจิตใจอย่างแน่นอน จากผู้ที่ปากเก่ง ไม่เคยยอมหงอให้กับคนไหนกัน และไม่เคยแสดงความอ่อนแอในที่ชุมชน ไทสันเริ่มแปลงลักษณะนิสัยไปทีละเล็กทีละน้อย ทีละเล็กละน้อย ผู้ที่จับดูได้เป็น ติดอยู่ไม่ลล์ เอ็ดวาลด์ แม่บุญธรรม รวมทั้ง รอรี่ ฮอลโลเวย์ เพื่อนซี้ของไทสันที่เดินทางมายอดเยี่ยมเขาในเรือนจำ.. แล้วก็คุณคนนี้รู้เท่าทันหนว่าไทสันกำลังห่วยแตกจริงๆ

คืนเชือดหมู

“คุกเป็นเมืองนรกของไมค์ เขาเพียงแค่เพียรพยายามปิดบังความเจ็บ เขาบางครั้งก็อาจจะแอบซ่อนมันไว้ แม้กระนั้นฉันมองเห็นมันได้จากดวงตาของเขา” ฝั่งแม่บุญธรรมเล่าถึงมุมที่อ่อนแอ ก่อนที่จะ รอรี่ ฮอลโลเวย์ จะเสริมต่อว่าต่อขาน เขามิได้เพียงแค่เศร้าหมองแค่นั้น แต่ว่าเขาเริ่มมีลักษณะอาการทางด้านจิตเล็กๆเก็บเรื่องในตารางไปฝันจนถึงเครียดอย่างยิ่งจริงๆ

“ไมค์เล่าให้ผมฟังว่า..” ฮอลโลเวย์เริ่มเล่าบ้าง “รอรี่ ฉันอย่างกับตื่นช่วงดึกวันแล้ววันเล่า ฉันมีความคิดว่ามันเป็นความฝัน แต่ว่าเมื่อฉันลืมตาฉันก็จะต้องสบถใส่ตนเองเสมอ ‘เวรเอ๊ย ข้ายังติดอยู่ในตารางห่านี่อยู่อีกหรอวะเนี่ย'”

แม้ว่าจะมีข้อมูลอื่นๆอีกเยอะแยะในตอนที่ไทสันอยู่ในตาราง แม้กระนั้นนี่เป็นภาพรวมที่กระจ่างแจ้งที่สุดจากสิ่งที่เจ้าตัวบอก เห็นได้ชัดว่าแววตามือสังหารของเขาเบาบางลง ภาวะจิตใจที่กล้าแกร่งเริ่มสั่นไหว ร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามแล้วก็ความแข็งแรงที่เคยมีหายไปเยอะแยะ เขาเหลือน้ำหนักเพียงแค่ 215 ปอนด์จากที่ก่อนเข้าตารางเขาเคยหนักถึง 270 ปอนด์.. ชัดแจ้งว่า ไมค์ ไทสัน แปรไป

สิ่งใดก็ตามไม่ว่าเลวทรามขนาดไหน ถ้ามันมาเยี่ยมคุณแล้ววันใดวันหนึ่งมันก็จะผ่านไป.. ไทสันทรหดอดทนอยู่ในภาวะที่ไกลคนละโยชน์จากวันที่เป็นแชมป์โลกจนได้รับทานบนในปี 1995 ท้ายที่สุดเขาก็กลับมามีอิสรภาพอีกรอบ

“ผมปฏิบัติกับทุกคน (ในเรือนจำ) ราวที่ผมต้องการให้ทุกคนปฏิบัติกับผม ไม่มีการเสวนาข่มหรือทำให้ผู้ใดกลัว ขณะนั้นเป็นตอนที่ยอมลดความทระนงลงมาเพื่ออยู่กับผู้อื่นด้วยความนับถือ”

“ผมเคยมีเรื่องมีราวต่อยในเรือนจำเพียงแค่ครั้งเดียว เพราะเหตุว่ามีบางบุคคลบอกในบางสิ่งบางอย่างให้ไพเราะผม รวมทั้งโน่นทำให้ผมถูกล็อคตัวแล้วก็จับขังโดดเดี่ยวเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน มันเป็นตอนที่น่าอารมณ์เสียที่สุด” เขาเล่านี้ลงในเพียงพอดแคสต์ของตน

เมื่อประตูที่ความอิสระเปิดขึ้น แม้ว่าจะผ่านเวลาไป 3 ปี แม้กระนั้นไร้คนแวดวงมวยคนไหนที่ไม่นึกถึงไมค์ ไทสัน แม้กระนั้นผู้ที่นึกถึงเขาเยอะที่สุดแบบชนะเป็น ดอน คิง โปรโมเตอร์คู่ใจ ขณะที่ไทสันอยู่ในตาราง ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ดอน คิง ไม่มีเงินจากไฟต์แม่เหล็กไปๆมาๆกมายขนาดไหน แม้คิดเป็นเงินก็อาจเกิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาแน่นอนโดยเหตุนั้น จะด้วยเหตุใดก็ตาม เมื่อไทสันมีอิสรภาพ ดอน คิง ก็เลยแลเห็นวิถีทางการผลิตรายได้เพื่อทดแทนในสิ่งที่เขาเสียไป.. จัดมวยดียิ่งกว่าอย่าช้าครั้ง

อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ ทุกคนต่างก็มีความเห็นว่าท่วงท่าและก็อิริยาบถของไทสันขาดความกราดเกรี้ยวไปเยอะแยะ ถ้าเกิดวัดจากในช่วงเวลาที่เขายังคงเป็นอิสระสันเวอร์ชั่นก่อนเข้าเรือนจำ แฟนมวยคนจำนวนไม่น้อยสงสัยว่าแล้วเขาจะเก่งอย่างเดิมไหมถ้าเกิดได้ขึ้นเวที?

นาทีนั้นไม่มีผู้ใดไม่สงสัย เนื่องจากไทสันทำท่าจะหมดตั้งแต่แพ้ให้กับ บัสเตอร์ ดั๊กลาส ในปี 1990 และก็เสียสายรัดเอวแชมป์โลก 3 เส้นไปพร้อมเพียงกัน จากนั้น ไทสันก็ไม่เคยได้พบมวยระดับกระดูกอีกเลย ว่ากันว่าแม้เขาไม่จำคุกไปซะก่อน ดอน คิง กำลังจะจัดแมตช์ล้างคำดูถูกให้เขาพบกับ อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ อยู่แล้ว แต่ว่าทั้งหมดทุกอย่างก็พังทลายหมดรูป โน่นก็เลยทำให้ข้อสมมติฐานว่าไทสันจะหมดสภาพมวยบู๊สายเดินจำพวกที่น็อคคู่ปรับตั้งแต่ชูแรกราวกับที่เคยเป็น

ดอน คิง หยั่งทราบอยู่แล้ว เขาได้กลิ่นเงินมาแต่ไกล ทุกคนย่อมต้องการจะใส่ความจริงจากไทสัน แล้วก็การให้ไทสันขึ้นสังเวียนโดยทันทีภายหลังพ้นตารางได้ไม่กี่เดือนจะเป็นไฟต์ที่ทำเงิน ไม่ว่าคู่ต่อยของไทสันจะเป็นไม่ว่าใคร.. แต่ว่า ดอน คิง ดูไปลึกกว่านั้นถ้าเกิดดูในด้านธุรกิจ เขาต้องการจะให้ทุกคนได้มองเห็นไล่กระหน่ำนักต่อยสักผู้ที่มิได้แข็งอะไรเยอะแยะและก็เพียงพอเป็นที่รู้จักในระดับหนึ่ง ด้วยเหตุดังกล่าว สลากกินแบ่งก็เลยไปออกที่ ปีเตอร์ แม็คนีลี่ย์ นักต่อยผิวขาวรุ่นเฮฟวี่เวต ผู้ครอบครองสมญานาม “เฮอร์ริเคน” ที่ติดอยู่ในชั้นท็อป 20 ของโลกในเวลานั้น

“ผมเซ็นสัญญาเป็นเยี่ยมในสมาชิกของ ดอน คิง โปรดักชั่น ในปี 1994 ได้ขึ้นสังเวียนประมาณ2-3 ครั้ง แล้วต่อจากนั้นก็หายไปพักใหญ่ ทีแรกๆเขาปลอบประโลมผมว่าจะให้ผมต่อยกับ โอลิเวอร์ แม็คคอลล์ ที่พึ่งได้แชมป์โลกมาจากการเอาชนะ เลนน็อกซ์ ลูอิส.. ‘พีตตี้ มึงเตรียมเลย ฉันให้มึงชิงสายรัดเอวทีแรกกับ แม็คคอลล์’ เขาว่าแบบนั้น” ปีเตอร์ แม็คนีลี่ย์ นักมวยเกรดรองผู้ไม่เคยถูกส่งเสริมกล่าว

ในขณะนั้นแม็คนีลี่ย์ดีใจมากที๋ช่องทางแรกในชีวิตจะมาถึง แต่ว่าภายหลังที่เขาคุยกับ ดอน คิง ได้ไม่ถึงอาทิตย์ เขาก็จำเป็นต้องเจอกับข่าวไม่ดี ด้วยเหตุว่า WBC ได้เข้ามารวมทั้งกล่าวว่าไฟต์ของเขากับแม็คคอลล์จะไม่เกิดขึ้น เพราะเหตุว่าการจะชิงชนะเลิศโลกนั้นเขาจะต้องมีชั้นติด 1 ใน 10 เพียงแค่นั้น (ซึ่งขณะนั้นเขาอยู่ชั้นที่ 12)

“ในขณะนั้นผมร้องไห้เลยจ้ะ แม้กระนั้นในขณะเดียวกันมันเป็นตอนๆในเวลาที่พอเหมาะพอดี ดอน คิง มาบอกผมว่าอย่าเศร้าใจไปเลย ประเดี๋ยวฉันจะให้มึงได้ต่อยกับ ไมค์ ไทสัน.. เขาออกมาจากตารางมาแล้ว” แม็คนี่ลี่ย์ให้สัมภาษณ์กับ SI.com

แม็คนีลีย์ปลื้มปิติในความพ่อของ ดอน คิง ที่จะให้เกียรติเขาเป็นคนแรกที่ได้ต่อยกับไทสันในรอบยาวนานหลายปี อย่างไรก็แล้วแต่ นี่เป็นเกมธุรกิจล้วนๆดอน คิง คิดแผนให้ไทสันอัดแม็คนีลี่ย์ให้ยับ เพราะเหตุว่าเขารู้อยู่แล้วว่ามันจะเกิดขึ้นเนื่องจากความห่างชั้น จากนั้นทั่วทั้งโลกก็พากันเฮโลว่า “ไทสัน กลับมาแล้ว” รวมทั้งสิ่งที่พวกเขารอคอยเป็นของแท้จะเริ่มขึ้นต่อไป เมื่อเฉือนหมูเสร็จ ทุกคนต้องการจะมองเห็นซูเปอร์ไฟต์.. ซึ่งไม่ต้องเป็นห่วงเลย ดอน คิง ได้วางแผนเอาไว้เหมือนกัน ถ้าเกิดจบไฟต์ระหว่าง ไทสัน กับ แม็คนีลีย์.. คิวถัดไป “ไอออน ไมค์” จะไปชนกับยอดเยี่ยมนักต่อยอย่าง จอร์จ โฟร์แมน นั่นเอง

ไม่ต้องพินิจพิจารณาเจาะลึกกันเยอะมากนัก เซียนมวยทุกคน และก็ยังรวมทั้งไม่ต้องเป็นเซียนก็ยังทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้นในไฟต์นี้ ในงานแถลงข่าวมีป้ายผ้าขนาดใหญ่ขึ้นโชว์หราว่า “He’s Back” He ในตรงนี้หมายความว่า ไทสัน แน่ๆ 100%.. มันบอกเป็นนัยๆว่าไฟต์นี้คุณเฝ้าดูไทสันเอาไว้ก็พอเพียง.. เนื่องจากว่าเขากลับมาแล้ว

การให้สัมภาษณ์ของไทสันในเวลานั้นมิได้มีอะไรบาดตาไม่ถูกกับที่เขาเคยทำโดยตลอด เขามองไม่ตื่นเต้นอะไรล้นหลามนัก แตกต่างกันกับแม็คนีลี่ย์ที่แววตาแวววาวเสมือนได้เจอกับวันนี้ที่รอ เขากลับไปฝึกหนักอย่างจริงจังแล้วก็เฝ้าแต่ว่าหวังว่า “เฮอร์ริเคน” อย่างเขาจะพัดใส่ “ไอออน ไมค์” ในเวอร์ชั่นที่อ่อนแอที่สุดในรอบนับเป็นเวลาหลายปี (ได้ฝึกซ้อมเพียงแต่ 3 เดือนที่แล้วต่อย) ให้กระจุยกระจาย

ไทสันเฉยๆแม็คนีลี่ย์ตื่นเต้น แม้กระนั้น ดอน คิง นี่สิที่ตื่นเต้นมากกว่า เพราะว่าไฟต์ดังที่ได้กล่าวมาแล้วทำเงินได้มากกว่าซูเปอร์ไฟต์อีกหลายๆแมตช์ที่ผ่านมาเสียอีก แมตช์นี้ทำรายได้จากยอดจำหน่ายตั๋วเข้าชมและก็ยอดซื้อแบบ Pay Per View ไปทั้งผอง 96 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา กล่าวได้ว่าเป็นการได้กำไรเป็นอย่างมากแบบที่คนใดคาดไม่ถึงอย่างแท้จริง

ส่วนการต่อยในไฟต์นั้น แม้จะว่ากันตามจริงมันไม่ใช่อะไรที่เซอร์ไพรส์อย่างที่ทุกคนบอก ไทสันที่เหนือกว่าทุกประตูส่งแม็คนีลี่ย์ลงไปกองตั้งแต่ 10 วินาทีแรก ก่อนที่จะเขาจะยืนขึ้นมาใหม่และก็ทำในสิ่งที่ใครหลายๆคนไม่คิดจะทำกับไทสัน โน่นเป็นการเดินต่อย ฝากพนันทั้งปวงไว้กับแรงที่ใส่เต็มๆในตอนต้นเกม ซึ่งไม่ค่อยมีคนไหนทำอย่างนี้ เนื่องจากทุกคนทราบว่ายิ่งเกมอยู่ในตอนต้นๆไทสันยิ่งเข้มแข็ง การจะเอาชนะเขานั้นจะง่ายดายยิ่งกว่าถ้าหากปลดปล่อยให้เกมไหลไปจนกระทั่งชูด้านหลังๆ

ความห่างชั้นรวมทั้งพรวรรค์ไม่อาจจะชดเชยด้วยความดวงใจสู้ แม้ว่าจะบากบั่นเดินใส่เท่าไร แต่ว่าไทสันก็มิได้เจ็บปวดรวดร้าวทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสกับหมัดของแม็คนีลี่ย์นัก เขาดักต่อยกล้วยๆจนกระทั่งผู้ชมโห่ร้องกันด้วยความเพลิดเพลินที่ได้มองเห็นมวยกระดูกคนละเบอร์อย่างงี้

ไม่ทันจบชูแรก แม็คนี่ลี่ย์ล้มไปกองถึง 3 หัวหน้า. จนถึงในที่สุดคนดูแลของเขาก็ตกลงใจเดินขึ้นมาบนเวทีเพื่อเลิกการต่อยนั้น ถึงแม้แม็คนีลี่ย์จะไม่เต็มใจนัก แม้กระนั้นเรื่องจริงก็คือความเป็นจริง ขืนยืนอยู่ถัดไปก็สู้ไม่ได้ แล้วก็ระรานจะก่อให้เขาจำต้องเจ็บตัวหนักกว่าเดิม

“ผมมองภาพย้อนไป รวมทั้งรู้สึกตัวว่าผมแพ้เนื่องจากว่าหมัดที่ผมไม่สามารถที่จะแม้กระทั้งจะมองดูทัน” แม็คนีลี่ย์กล่าวถึงหมัดของไทสันวันนั้นในภายหลังที่มันเร็วกระทั่งเขาตกแล้วหล่นอีก

ทุกคนเห็นแต่แม็คนีลี่ย์เป็นดังตัวตลกที่ส่งมาให้ผู้ชมบันเทิงใจแค่นั้น โน่นเป็นความเจ็บที่มาพร้อมด้วยเรื่องจริง ภายหลังต่อยกับไทสันเสร็จ แม็คนีลี่ย์เองก็ได้เงินทดแทนในแบบที่เหมาะจะได้ แม้ว่าจะห่างกับที่ไทสันได้รับหลายเท่าก็ตาม แต่ว่าปัญหาก็คือความภาคภูมิรวมทั้งอาชีพนักมวยที่มีหมดลงนั่น ไม่มีผู้ใดดูเขาเป็นนักมวยแล้ว เขาถูกพบเห็นเป็นเพียงแค่ “มวยส้วม” แค่นั้น และไม่เคยได้ขึ้นสังเวียนชิงชนะเลิศโลกอีกเลย.. จะเกี่ยวหรือไม่ก็ไม่เคยทราบ แม้กระนั้นภาพลักษณ์ของเขาแปรไปตั้งแต่แมื่อการโดนไทสันต่อยจนถึงล้มกลิ้งล้มหงาย หมดสภาพนักมวยเฮฟวี่เวตชั้น 12 ของโลกอย่างสิ้นเชิง

“หลายประเภทแปรไปในทางที่แย่มาก ผมเปลี่ยนเป็นผู้ที่โดนสั่งให้ต่อย 44 ไฟต์ใน 60 เดือน มันเผาไหม้ผมหมดทั้งยังสภาพร่างกาย, ภาวะจิตใจ และก็จิตวิญญาณนักสู้ ผมว่าผมหมดทั้งหมดทุกอย่างแล้วในขณะนั้น”

ส่วนไทสันนั้นเดินลงเวทีในแบบราชา.. เขากอดกับแม็คนีลี่ย์และก็กระซุบกระซิบบางสิ่งที่ไม่มีการเปิดเผย ไม่แน่มันบางครั้งอาจจะเป็นการบอกก็ได้ว่า “ขออภัยด้วย มันคือเรื่องของธุรกิจ” ก็เป็นไปได้

ในตอนที่ไทสันหลังออกมาจากเรือนจำและไม่ได้อยู่เวลาที่ดีนัก ก่อนที่จะประสบปัญหาชีวิตมากไม่น้อยเลยทีเดียว และก็ได้ยิ้มในตอนสุดท้ายด้วยธุรกิจกัญชา รวมทั้งความเคลื่อนไหวมุมมองชีวิตแบบใหม่ ซึ่งมันก็คล้ายกับสิ่งที่แม็คนีลี่ย์ทำ

มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ ดูเรื่องร้ายๆแล้วเอามาใช้เป็นประสบการณ์เพื่ออนาคตที่รออยู่.. ไทสันออกมาจากตาราง ตกอับก่อนผงาดเป็นผู้ที่ไปถึงเป้าหมายในชีวิตได้ แม็คนีลี่ย์ก็แปลงเป็นผู้ที่นั่งมองดูไฟต์อันน่าอดสูของตนเองแบบมีรอยยิ้มได้เช่นเดียวกัน..

ชีวิตมันก็เท่านี้เอง อย่าเครียดมากเกินไป ต้องอยู่กับมันอย่างเข้มแข็ง แล้วก็สิ่งเลวร้ายๆเมื่อถึงเวลาพวกมันก็จะจากไป เหลือแค่คุณกับความภาคภูมิใจเพียงแค่นั้น ที่ผ่านสิ่งต่างๆมาได้ด้วยความแข็งแกร่งแล้วก็น่ากล่าวชมเชย